พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่จังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้าและสถานีช้างเอราวัณ คุณสามารถลง BTS สถานีปู่เจ้า แล้วเดินออกมาทางออกที่ 3 ต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 2 นาที (ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร) หรือจะลง BTS สถานีเอราวัณ แล้วออกทางออกที่ 1 แล้วเดินไปอีกประมาณ 1 นาที (ระยะทางประมาณ 950 เมตร) ก็จะถึงจุดหมาย แต่ไม่ขอแนะนำลงสถานีปู่เจ้าแล้วเดินไปนะครับ เพราะมันเป็นถนนเส้นหลักที่รถใช้สัญจรไปมา ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัย จึงไม่แนะนำนะครับ

ผมรู้สึกว่า พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณคือที่รวมเอางานศิลปะและศาสนามาไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ที่มีความงดงามทางด้านศิลปะและอารยธรรมที่ทรงคุณค่าของไทย ผสมผสานการประดับประดาด้วยเซรามิกหลากหลายแบบ ภายนอกจะมีรูปปั้นเทวดา พระพุทธรูปมากมายให้ได้ไหว้สักการะกัน เช่น พระพิฆเนศ, ท้าวมหาพรม, พระตรีมูรติ, พระเจดีย์รวมถึงเจ้าแม่กวนอิมพันมือด้วยครับ “คุณเล็ก วิระยะพันธุ์” ที่เป็นผู้ก่อตั้งที่นี่ ท่านเป็นลูกหลานชาวจีนรุ่นที่ 2 ที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย คุณเล็กหลงรักงานศิลป์อย่างมาก ทั้งเรื่องของศาสนา อารยธรรมรวมถึงไปงานศิลปะโบราณวัตถุด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2537 และได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 เป็นต้นมา พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 12 เอเคอร์ สถาปัตยกรรมหลักมีความสูงที่ 43.6 เมตร (เทียบเท่าตึก 14ชั้น) เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้าง 3 เศียร น้ำหนักของลำตัวช้างจนถึงเศียรช้างอยู่ที่ 250 ตัน ( น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน และน้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน) เมื่อเข้ามาด้านให้อยากให้ทุกคนลองเดินชมบริเวณรอบนอกก่อน พร้อมทั้งเช่าเครื่องหูฟังพร้อมคำบรรยาย และสามารถนำตั๋วไปรับชุดไหว้พระ ที่ประกอบด้วยธูป 3 ดอก พวงมาลัย 1 พวง และดอกบัว 1 ดอก ใส่มาในแก้วเซรามิกสวยงาม โดยทุกคนสามารถเดินไปไหว้พระอินทร์ที่อยู่ตรงกลางก่อน นำดอกบัวไปลอยทางฝั่งขวาของตัวสถาปัตยกรรม เชื่อกันว่าเป็นการเอาสิ่งไม่ดีออกไป และนำโชคลาภมาให้เรา และเราสามารถเดินไปตามลำดับหมายเลขที่ระบุไว้ ได้เลยเพื่อไปสักการะและชมพระองค์อื่นๆครับ

ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์จะแบ่งตามภพภูมิเป็นสามส่วนคือสวรรค์, โลกมนุษย์และเมืองบาดาล โดยตัว “ชั้นบาดาล” นั้นจะอยู่ใต้บันไดซึ่งเป็นโซนที่ห้ามถ่ายรูปนะครับ การสร้างใช้แนวคิดตามต้นแบบจากคัมภีร์ไตรภูมิกถา และมีโบราณวัตถุที่ออกแบบตามความเชื่อ “ชั้นแรกคือชั้นโลกมนุษย์” เป็นชั้นที่สำคัญ ภายในเป็นภาพเรื่องราวอันแฝงไปด้วยคติธรรมทางศาสนา ซึ่งวัตถุที่ประดับมีลักษณะกลมกลืนไปกับศิลปะวัฒนธรรมจีน รูปปั้นแกะสลักและราวจับบันไดเป็นการใช้เครื่องถ้วยเบญจรงค์ จะสังเกตุเห็นได้ว่ามีชิ้นส่วนถ้วยชามเบญจรงค์ชิ้นเล็กๆ เรียงซ้อนกันอยู่ นอกจากนี้งานสลักดุนแผ่นดีบุกเสาทั้ง 4 ต้น ในตัวอาคารชั้นนี้ ประกอบไปด้วย เสาศาสนาพุทธ ( เสาหน้าด้านซ้าย ) เสาศาสนาคริสต์ ( เสาหน้าด้านขวา ) เสาศาสนาฮินดู ( เสาหลังด้านซ้าย ) และ เสาศาสนาพุทธนิกายมหายาน ( เสาหลังด้านขวา ) เกี่ยวข้องกับเจ้าแม่กวนอิม เมื่อเดินขึ้นบันไดไปจะเห็นซุ้มเก๋งจีนตรงกลางระหว่างบันไดประดิษฐานด้วยองค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นหินแกะสลัก บนยอดเก๋งจีนคือพระเกตุ สัญลักษณ์ผู้ดูแลโลกมนุษย์ ศิลปะวัฒนธรรมทั้งหมดของชั้นโลกมนุษย์นั้นพูดถึงว่า โลกเราไม่ควรแบ่งศาสนา มนุษย์ต่างมีความศรัทธาและยึดมั่นแก่นของคำสอนทางศาสนา ควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เมื่อเงยหน้ามองด้านบนจะเห็นงานกระจกสี (Stained glass) เป็นผลงานของศิลปินชาวเยอรมัน เมื่อขึ้นไปบนสุดของอาคาร คุณจะสามารถมองเห็นวิวชั้น 10 มันเหมือนคุณกำลังอยู่บน “สวรรค์” คุณจะได้ชมพระพุทธรูปมากมาย ทั้งองค์เล็ก องค์ใหญ่ เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ถูกรวบรวมของประเทศไทย คุณจะเห็นเพดานบนสวรรค์ เป็นภาพวาดสีฝุ่นเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาล และในขณะที่คุณมองเห็นภาพดวงดาวเต็มท้องฟ้าจะรู้สึกได้ถึงความสงบและเหมือนได้รัยคำอวยพร รู้สึกอิ่มใจไปเลยครับ

จริงๆแล้วนอกจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแล้ว ยังมีเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการอีกหนึ่งที่ เป็นเมืองจำลอง 76 จังหวัดของประเทศไทย รวมถึงปราสาทสัจธรรมที่พัทยา เป็นพิพิธภัณฑ์อีกหนึ่งที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับศาสนา หากมีโอกาสต้องไปเยี่ยมชมกันนะครับ

สถาปัตยกรรมหลักมีความสูงที่ 43.6 เมตร (เทียบเท่าตึก 14ชั้น) เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้าง 3 เศียร น้ำหนักของลำตัวช้างจนถึงเศียรช้างอยู่ที่ 250 ตัน ( น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน และน้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน)

สถาปัตยกรรมหลักมีความสูงที่ 43.6 เมตร (เทียบเท่าตึก 14ชั้น) เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้าง 3 เศียร น้ำหนักของลำตัวช้างจนถึงเศียรช้างอยู่ที่ 250 ตัน ( น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน และน้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน) / 主建築高43.6公尺(約14樓層高),主建築頂端的青銅三頭象重量約莫高達250公噸重(象身150公噸和象頭100公噸)

三頭象神博物館位於沙沒巴干(北纜府),在天鐵埔灶站(BTS Pu Chao Station E16)跟三頭象站(BTS Chang Erawan E17)之間,你可以在埔灶站下站後三號出去出來轉乘計程車直行約2分鐘即可抵達(距離約1.2公里),或是坐到三頭象站下站後一號出口出來後步行約1分鐘(距離約950公尺)即可抵達,不推薦大家從埔灶站步行前往,因為會經過大型交流道的部分,小編覺得很危險溫馨提醒大家!

三頭象神博物館小編覺得比較像是廟宇加上美術館的複合式博物館是通往泰國文化遺產的大門,它融合了很多的陶瓷藝術及青銅藝品外在這還可以參拜多尊神明,像是象神、四面佛、五面愛神、佛塔跟千手觀音。建造者Lek Viriyaphant他是華僑第二代,生前熱愛藝術、宗教及收集古董藝術品,於是1994年開始興建這座博物館,至2003年並開始對外開方,整個園區佔地約12 英畝,主建築高43.6公尺(約14樓層高),主建築頂端的青銅三頭象重量約莫高達250公噸重(象身150公噸和象頭100公噸),進入園區可以先到四週逛逛跟租借解說機,也可以拿者票根領取供神的供品,你會拿到三炷香鮮花環跟陶瓷碗裝的蓮花,大家可以先至全區中央參拜天神Indra,只主建築左手邊的地方將裝在陶瓷碗的蓮花在這流放,意思放掉不好的事情帶來好運,此外,你還可以依照數字參拜其他神像。

主建築內部將分為天界、人間跟地宮,地下樓層 – 「地宮」是禁止拍照的,此樓層主要展示一些歷史出土文物等物品跟其他博物館的設計原圖;一樓樓層 – 「人間」是整個主要亮點,在這你會看得很多精緻的宗教藝術品並帶有濃濃的中國風格,雕像跟樓梯扶手都是有陶磁藝品一片一片拼貼出,還會發現中國陶瓷湯勺跟陶瓷碗也融入在藝術品中,此外,顯眼的四大錫柱分別代表者四大宗教:佛教、基督教、婆羅門教及伊斯蘭教,而從柚木階梯往上走會看到中間角亭中所供奉的觀音菩薩像,人間的含義其實是想表達在這個世界應該不分宗教不分種族應該是以包容、理解跟愛創造出來的,抬頭仰望將看到美麗的彩繪玻璃,這是由一名德國藝術家所繪制而成的,裡面包含了五大洲及十二星座的圖像;在最上方的樓層你可以從小窗中俯瞰10層樓高的風景外,你會在「天界」看到泰國各地不同王朝時期及不同質地的佛像,在天界仰望你換看到滿天的星空彩繪,在這你會得到瞬間平靜跟感覺到滿滿的祝福。
其實建造者除了三頭象神博物館外在北纜府還有另一個博物館就是古城76府及芭達雅的真理寺,都是跟宗教跟藝術結合的博物館,如果有機會小編會再介紹給大家喔!

4 ต้น ในตัวอาคารชั้นนี้ ประกอบไปด้วย เสาศาสนาพุทธ ( เสาหน้าด้านซ้าย ) เสาศาสนาคริสต์ ( เสาหน้าด้านขวา ) เสาศาสนาฮินดู ( เสาหลังด้านซ้าย ) และ เสาศาสนาพุทธนิกายมหายาน ( เสาหลังด้านขวา ) / 四大錫柱分別代表者四大宗教:佛教、基督教、婆羅門教及伊斯蘭教

ชื่อของสถานที่ (名稱) :
The Erawan Museum (三頭象神博物館)
เวลาทำการ (營業時間) : 09:00~18:00
ที่อยู่ (地址) : 99 Bang Mueang Mai, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan 10270
แผนที่ (地圖) : Click to see Google Map
เบอร์ติดต่อ (聯繫方式) : 02-371-3135
Official Website : http://www.erawan-museum.com/
Fan page : https://www.facebook.com/pages/Erawan%20Museum/126728424036543/
Read on Facebook

#ภาเที่ยวกัน #letstravelingtogether #thailand #語言帶我去旅行 #Temple #enfinity_ent #ภาเที่ยวกัน #enfinity_ent #huahin #thai #ท่องเที่ยวหัวหิน #ท่องเที่ยว #ธรรมชาติ #ทะเล #หัวหิน #MyThailandBucketList #AmazingThailand #AmazingNewChapters Enfinity Entertainment Co., LTD Happy Verymuch

MOST POPULAR STORY